คำถาม ข้อ 1. สิทธิและหน้าที่ของสมาชิก มีอะไรบ้าง?
ตอบ สิทธิของสมาชิก มีดังนี้
1) แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกิจการของสมาคมต่อคณะกรรมการและเรียกร้องให้คณะกรรมการกระทำ หรืองดเว้นการกระทำเพื่อประโยชน์ของสมาคม
2) เข้าร่วมประชุมใหญ่ของสมาคม และลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นกรรมการเพื่อบริหารงานสมาคม รวมทั้งออกเสียงลงคะแนนทุกครั้ง
3) ขอตรวจสอบบัญชีและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อทราบการดำเนินกิจการของสมาคมในวันเปิดทำการ
4) ลงชื่อร่วมกันไม้น้อยกว่า 50 คน หรือจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในห้าของจำนวนสมาชิกทั้งหมด ร้องขอต่อคณะกรรมการให้เรียกประชุมใหญ่วิสามัญเพื่อการใดการหนึ่งเมื่อใดก็ได้
5) ร้องขอต่อนายทะเบียนให้ส่งเพิกถอนมติของที่ประชุมใหญ่ของสมาคม ถ้าได้นัดเรียกหรือได้ประชุมกันหรือได้ลงมติฝ่าฝืนต่อกฎหมายหรือข้อบังคับของสมาคม และต้องร้องขอภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ที่ประชุมใหญ่ลงมติ
6) ขอตรวจเอกสาร คัดเอกสาร หรือขอคัดรายการและรับรองสำเนาเอกสารของสมาคมจากนายทะเบียน
7) มอบฉันทะเป็นหนังสือให้ผู้อื่นซึ่งมิให้สมาชิกเข้าร่วมประชุมใหญ่ และออกเสียงคะแนนแทนตนได้ผู้รับมอบฉันทะคนหนึ่ง รับมอบฉันทะได้คนเดียว
8) ลงชื่อร่วมกันไม่น้อยกว่าหนึ่งในสี่ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดร้องขอนายทะเบียนสั่งให้เลิกสมาคมพร้อมด้วยเหตุผล หรือร้องขอต่อศาลเพื่อให้ศาลสั่งให้เลิกสมาคม
9) แสดงความจำนงต่อที่ประชุมใหญ่เพื่อให้ผู้ชำระบัญชีในกรณีที่สมาคมต้องเลิกตามมติที่ประชุมใหญ่
10) ลงชื่อร่วมกันไม่น้อยกว่าสองในสามของจำนวนสมาชิกทั้งหมดร้องขอต่อนายทะเบียนเพื่อแต่งตั้งผู้ชำระบัญชีคนใหม่แทนผู้ชำระบัญชีที่ได้ตั้งไว้
11) อุทธรณ์ต่อคณะกรรมการสมาคม กรณีถูกคัดชื่อออกตามที่กำหนดในข้อบังคับของสมาคมฯที่ว่า (หากสมาชิกที่พ้นจากสมาชิกภาพและมีสิทธิอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการภายใน..วันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือ)
ตอบ หน้าที่ของสมาชิกมี ดังนี้
1) ปฏิบัติตามระเบียบ ข้อบังคับและคำสั่งของสมาคม
2) ชำระเงินสงเคราะห์ให้เรียบร้อยภายใน..วัน (ตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับของแต่ละสมาคมฯ) นับแต่วันที่ได้รับแจ้งการตายของสมาชิกหรือได้รับหนังสือแจ้งจากสมาคมให้ไปชำระเงิน
3) เก็บรักษาสมุดประจำตัวสมาชิก หรือบัตรประจำตัวสมาชิก
4) แจ้งการเปลี่ยนแปลงที่อยู่ ชื่อสกุล หรือวัน เดือน ปีเกิด ต่อสมาชิกภายใน..วัน (ตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับของแต่ละสมาคมฯ) นับแต่วันที่มีการเปลี่ยนแปลง
5) แจ้งความประสงค์เป็นหนังสือตามแบบที่สมาคมกำหนดที่จะเปลี่ยนแปลงบุคคลผู้จัดการศพหรือผู้รับเงินสงเคราะห์
คำถาม ข้อ 2. บุคคลใดเป็นผู้มีสิทธิรับเงินค่าจัดการศพและสงเคราะห์ครอบครัว?
ตอบ เมื่อสมาชิกผู้ใดถึงแก่ความตาย บุคคลในครอบครัวของสมาชิกผู้นั้นมีสิทธิได้รับเงินค่าจัดการศพ หรือค่าจัดการศพและสงเคราะห์ครอบครัว โดยผู้อยู่ลำดับก่อนย่อมตัดสิทธิผู้อยู่ลำดับหลัง ซึ่งต้องเป็นบุคคล ดังนี้
1) ที่ผู้สมัครเข้าเป็นสมาชิกระบุชื่อผู้จัดการศพ และเป็นผู้ที่ประสงค์ให้ได้รับเงินสงเคราะห์ ซึ่งต้อง
เป็นบุคคลในครอบครัว ระบุไว้ชัดเจนในในสมัคร ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงผู้จัดการศพ และผู้รับเงินสงเคราะห์ในภายหลัง สมาชิกต้องแจ้งให้สมาคมทราบเป็นหนังสือตามแบบที่สมาคมกำหนด
2) สามี ภริยา บุตร และบิดา มารดา 3) พี่น้องร่วมบิดา มารดาเดียวกัน
4) พี่น้องร่วมบิดา หรือมารดาเดียวกัน 5) ลุง ป้า น้า อา
6) ปู่ ย่า ตา ยาย 7) ผู้อุปการะเลี้ยงดู หรือผู้อยู่ในอุปการะเลี้ยงดู
ในกรณีที่สมาชิกไม่ได้ระบุให้บุคคลใดเป็นผู้จัดการศพหรือมีผู้จัดการศพแต่ไม่อาจจัดการศพของสมาชิกได้หรือไม่มีบุคคลที่สมาชิกระบุไว้ในใบสมัครให้เป็นผู้จัดการศพ บุคคลตาม ข้อ2 – ข้อ7 อาจยื่นคำร้องต่อสมาคมเพื่อขอเป็นผู้จัดการศพ และเมื่อสมาคมเห็นว่าบุคคลนั้นสามารถจัดการศพได้จริง ให้สมาคมจ่ายค่าจัดการศพแก่บุคคลดังกล่าว แต่ถ้าสมาคมเห็นว่าบุคคลนั้นมาสามารถจัดการศพได้ ให้สมาคมจัดการศพแก่สมาชิกให้เหมาะสมกับฐานานุรูปและศาสนาของสมาชิกนั้นๆ
ถ้าหากมีเงินเหลือจากการจัดการศพ ให้จ่ายแก่บุคคลใน ข้อ2 – ข้อ7 ตามลำดับก่อนหลัง โดยผู้อยู่ลำดับก่อนย่อมตัดสิทธิผู้อยู่ลำดับหลัง แต่ถ้ามีผู้อยู่ในลำดับเดียวกันหลายคน ให้ได้รับเงินในสัดส่วนที่เท่ากัน