จากปัญหาสุขภาพทำให้ "ธนิดา ขุนนา" ล้มเลิกกิจการด้านที่ดิน และผันชีวิตสู่ภาคเกษตรโดยพลิกที่นา 50 ไร่ ต.หนองหัวโพ อ.หนองแซง จ.สระบุรี

ปลูกผักปลอดสารไว้บริโภคและจำหน่าย ด้วยปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี ส่งให้เธอได้รับคัดเลือกเป็นเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติปี 2553
"ธนิดา" เจ้าของ “คลีนฟาร์ม” เกษตรกรดีเด่นแห่งชาติปี 2553 สาขาการใช้วิชาการเกษตรดีที่เหมาะสม (จีเอพี) เล่าว่า ได้พัฒนาพื้นที่แปลงนาเดิมเพื่อเปลี่ยนเป็นปลูกผักปลอดสาร เมื่อปี 2548 เริ่มจากปรับปรุงดิน พัฒนาระบบน้ำทั้งขุดคลอง ขุดบ่อพัก ขณะเดียวกันก็ปลูกไผ่ ปลูกกล้วย ไม้ผล เป็นกำแพงธรรมชาติป้องกันลมและศัตรูพืช
"ปี 2550 เรามีแนวคิดพัฒนาปลูกผักแบบใหม่ เป็นยกแคร่ในโรงเรือนซึ่งประยุกต์จากแปลงปลูกพืชไฮโดรโปนิกส์ ยกพื้นสูง 80 เซนติเมตร วิธีนี้มีข้อดีคือช่วยระบายน้ำ ความร้อน ลดปัญหาโรค แมลงศัตรูพืช วัชพืช ที่สำคัญลดต้นทุนค่าปุ๋ยเคมีได้มาก" เจ้าของคลีนฟาร์ม แจง
ปัจจุบันคลีนฟาร์มมีโรงเรือนปลูกผักปลอดสาร 52 โรงเรือน ผักที่ปลูก อาทิ คะน้า คะน้าฮ่องกง ผักกาดขาว ผักกวางตุ้ง ผักโขมเขียว บวบ มะระ ผักบุ้ง ผักหวาน แตงกวา กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก เป็นต้น
ระบบการให้น้ำ ให้ปุ๋ย รวมทั้งวิธีป้องกันศัตรูพืชนั้น ธนิดาบอกเป็นไปตามระบบมาตรฐานจีเอพี ของกรมวิชาการเกษตร ซึ่งทำไม่ยากหากใส่ใจอย่างจริงจัง ที่สำคัญต้องมีวินัยและซื่อสัตย์ในอาชีพ โดยเฉพาะการใช้วัตถุอันตรายทางการเกษตร ต้องใช้ให้ถูกต้องตามฉลากและคำแนะนำของกรม
"การเก็บเกี่ยวเป็นขั้นตอนหนึ่งที่สำคัญมาก โดยเราจะเก็บช่วงเช้า เน้นสด สะอาด ตัดแต่งแล้วล้างในห้องควบคุมอุณหภูมิ ก่อนเก็บรักษาในห้องเย็นเพื่อเตรียมส่งให้ลูกค้าในกรุงเทพฯ อยุธยา ลพบุรี สระบุรี โดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง ได้รับการตอบรับดีมาก” ธนิดา แจง
พร้อมฝากถึงผู้สนใจศึกษาเรียนรู้ระบบการผลิตพืชผักตามมาตรฐานจีเอพี ติดต่อไปได้ที่เลขที่ 86 หมู่ 4 ต.หนองหัวโพ อ.หนองแซง โทร.08-1890-2991 ยินดีให้ความกระจ่างต่อทุกคน

--คมชัดลึก ฉบับวันที่ 16 มิ.ย. 2553 (กรอบบ่าย)--

อ้างอิงจาก www.pandinthong.com


15 กรกฏาคม 2553

Copy to clipboard

กลับสู่ด้านบน