จระเข้จัดเป็นสัตว์เศรษฐกิจประเภทหนึ่งที่สร้างรายได้ที่คุ้มค่าแก่ผู้เลี้ยง ไม่ว่าจะเลี้ยงเพื่อจำหน่ายหนัง เนื้อ หรือจำหน่ายลูก

นอกจากนี้สินค้าที่ได้จากจระเข้มีประโยชน์และมีราคา เนื่องจากมีความสวยงาม และมีความแข็งแรงสูง เช่น ผลิตภัณฑ์ เครื่อง หนัง
สายชล จิตรหนัก เกษตรกรคนเก่ง ลูกค้าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) จ.นครนายก สร้างรายได้ เสริมในระหว่างรอการขายผลผลิตข้าว โดยการเลี้ยงจระเข้
สายชลเล่าว่า ตนเป็นผู้ริเริ่มเลี้ยงจระเข้เป็นรายแรกของ ต. ศรี จุฬา โดยเริ่มซื้อลูกจระเข้ จากฟาร์ม อายุ 2-3 เดือน ขนาด ลำตัวยาวประมาณ 30 เซนติเมตร ทั้งนี้ จระเข้เป็นสัตว์เลื้อยคลานไม่สามารถปรับอุณหภูมิเองได้ จึงต้องใช้น้ำเป็นตัวช่วยในการปรับ อุณหภูมิ ดังนั้น จึงต้องจัดหาน้ำอย่างเพียงพออยู่เสมอและต้องรักษาคุณภาพน้ำให้ดี
ด้านการเพาะเลี้ยงจะเติมน้ำให้มีระดับน้ำไม่ลึก เพื่อเป็นการประหยัดน้ำและทำความสะอาดง่าย โดยทำเป็นบ่อซีเมนต์ มีส่วน ที่เป็นบกและน้ำ อย่างละเท่า ๆ กัน และมีท่อระบายน้ำที่ระบายน้ำได้สะดวก รวดเร็ว เพื่อเป็นการประหยัดเวลาในการทำ ความ สะอาด
สำหรับการให้อาหารต้องปรับเปลี่ยนการให้อาหารตามวัยของจระเข้ คือ อายุ 1-3 เดือน ให้อาหารจำพวกลูกปลาหรือลูกกบ อายุ 4-6 เดือน ให้อาหารผสมลูกปลา ลูกกบ เนื้อ ไก่ และ เนื้อหมู อายุ 7-12 เดือน ให้เนื้อไก่ เนื้อหมู ไม่ติดมัน ผสมวิตามิน และ เมื่ออายุ 1-3 ปี เปลี่ยนเป็นอาหารผสมประกอบด้วยซี่โครงไก่ผสมวิตามิน
ส่วนพ่อแม่พันธุ์จะให้อาหารเพียงเล็กน้อย ประมาณอาทิตย์ละ 2 ครั้ง ๆ ละ 2 กิโลกรัม เพราะถ้าให้มากเกินไปจระเข้จะอ้วน ผสมพันธุ์ติดยาก สนใจดูงาน ติดต่อ ได้ ที่ 13 หมู่ ที่ 6 ต.ศรีจุฬา อ. เมือง จ. นครนายก โทรศัพท์ 08-7616-9552

--เดลินิวส์ ฉบับ วันที่ 5 มี.ค. 2553 (กรอบ บ่าย)--

อ้างอิงจาก : www.pandintong.com


15 กรกฏาคม 2553

Copy to clipboard

กลับสู่ด้านบน