จากเด็กบ้านนอก มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่ อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง ต้องเข้ามาสู่เมืองหลวง ด้วยความตั้งใจอยากจะมีอาชีพ มีรายได้ตามที่ใฝ่ฝัน จึงเริ่มต้นด้วยการเป็นลูกจ้างช่างพ่นสีรถยนต์ของบริษัทขายน้ำยี่ห้อหนึ่ง หลังทำงานอยู่พักใหญ่ก็ต้องลาออก เพราะทนไม่ได้ที่เถ้าแก่ด่าว่าไอ้โง่ ไอ้ควายป่า เพียงเพราะแค่หาไขควงไม่เจอ
"ตอนนั้นยอมรับว่าเจ็บปวดมาก โดนด่าว่าไอ้โง่ ไอ้ควายป่า ก็คิดอยู่ในใจว่า สักวันหนึ่งเราจะเป็นเถ้าแก่ให้ได้ เพราะคำด่าในวันนั้นผมถึงได้มีวันนี้นะ" เอนกย้อนอดีตให้ฟัง หลังลาออกจากงานเดิมก็เริ่มต้นเรียนรู้ชีวิตการเป็นเถ้าแก่ ด้วยการไปตระเวนซื้อมะพร้าวจากชาวบ้านที่ อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ แล้วมาส่งให้พ่อค้าที่กรุงเทพฯ แต่ทำอยู่ไม่นานก็ต้องเลิก เพราะได้ไปทำงานที่ซาอุดีอาระเบีย
"ทำงานอยู่ที่ซาอุฯ อยู่ 3 ปี ผมได้อะไรจากที่นี่เยอะมาก ทั้งประสบการณ์ในต่างแดน ภาษาที่ใช้ ที่สำคัญได้เรียนรู้การเป็นเจ้านายที่ดีเป็นอย่างไร และตั้งใจว่าหลังกลับเมืองไทยจะไม่กลับไปเป็นลูกจ้างอีกต่อไป บังเอิญว่าช่วงที่ผมกลับเมืองไทยนั้น ที่บ้านมีปัญหาขายไข่นกกระทาไม่ได้ เพราะลูกค้าที่ซื้อประจำเขาไม่ซื้อ หรือซื้อในราคาที่ต่ำ ผมก็เลยต้องนำไข่มาเร่ขายที่กรุงเทพฯ โดยกระจายให้พ่อค้าหลายๆ รายในหลายๆ ที่" เอนกเผย
นับเป็นจุดเริ่มต้นการทำธุรกิจฟาร์มเลี้ยงนกกระทาอย่างจริงจังของเขา โดยยึดแนวคิดให้ "ตลาดนำการผลิต" เพื่อจะได้ไม่มีปัญหาไข่นกกระทาที่ผลิตออกมาในแต่ละวันไม่มีตลาดรองรับเหมือนที่ผ่านมา ถึงวันนี้ตลาดไม่ใช่ตัวปัญหา แต่กำลังการผลิตกลับไม่เพียงพอต่อความต้องการ โดยเฉพาะตลาดยุโรปและอเมริกา ที่เอนกบอกว่ายังรับไม่อั้นสำหรับผลิตภัณฑ์ไข่นกกระทาแปรรูป
"สุรัตน์ อัตตะ"
- วันพุธที่ 14 กรกฎาคม 2553 หนังสือพิมพ์คมชัดลึก-