ด้วยที่มองว่า "ผักเหมียง" เป็นพืชผักกินใบ โดยนำเอายอดอ่อนหรือใบอ่อนมาทำเป็นอาหารในหลากหลายเมนู และการปลูกควรปลูกในที่ร่ม ดินร่วนซุย มีความอุดมสมบูรณ์สูง และมีฝนตกชุกและต่อเนื่อง

เหล่านี้เป็นแรงผลักให้เหล่าเกษตรกรใน พื้นที่ 5 หมู่บ้าน ต.หนองธง อ.ป่าบอน จ.พัทลุง ร่วม 20 ราย ปลูกผักชนิดนี้มากขึ้น โดยปลูกแซมสวนยางพารา สวนมะพร้าว และสวนสมรม หรือสวนเกษตรผสมผสาน สามารถสร้างรายได้ให้เกษตรกรอย่างงาม

หนึ่งในนั้นคือ ลุงรุ่น หลิบแก้ว ในวัย 50 ปีเศษ เกษตรกรพื้นที่หมู่ 9 ต.หนองธง อ.ป่าบอน เล่าว่า จากสภาพอากาศที่ร้อนจัดทำให้เกษตรกรในพื้นที่ซึ่งส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำสวนยางพาราต่างประสบปัญหาความเดือดร้อน เนื่องจากต้นยางให้ปริมาณน้ำยางลดน้อยรายได้ของครอบครัวจึงลดลง เพื่อเป็นการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ครอบครัวของตนจึงอาศัยเก็บยอดผักเหมียง ที่ปลูกแซมในร่องสวนยางพารา บนเนื้อที่ 4 ไร่ เก็บขายวันละ 8-10 กิโลกรัม ในราคากิโลกรัมละ 50 บาท

"ผักเหมียงเป็นพืชที่ชอบร่มเงา จึงสามารถเจริญเติบโตได้ดีในสวนยางพารา เพราะอาศัยร่มเงาและปุ๋ยจากต้นยางพารา ทำให้ผักเหมียงเจริญงอกงามได้ในเวลาที่รวดเร็ว จนสามารถเก็บขายมีรายได้ทุกวัน โดยลูกค้าส่วนใหญ่จะนิยมนำไปผัดน้ำมันหอย หรือลวกกะทิ รับประทานเป็นเครื่องเคียงกับน้ำพริกมะนาว รสชาติอร่อยมาก" ลุงรุ่น แจง

ลุงรุ่น เล่าด้วยว่า นอกเหนือจากเก็บยอดผักเหมียงขายแล้ว ครอบครัวของตนยังตอนกิ่งพันธุ์ผักเหมียง ขายด้วยในราคา ต้นละ 10 บาท ซึ่งล่าสุดมีลูกค้าทั้งในและต่างจังหวัด แห่ซื้อต้นพันธุ์กันจำนวนมาก เนื่องจากผักเหมียง นอกเหนือจากมีรสชาติ มันและอร่อยแล้ว หากรับประทานต่อเนื่องยังมีสรรพคุณทางยา แก้โรคความดันและโรคเบาหวานได้ด้วย

-- คมชัดลึก ฉบับวันที่ 28 ก.ค. 2553 --


10 สิงหาคม 2553

Copy to clipboard

กลับสู่ด้านบน