ออกมาตรการรับสถานการณ์แก้ปัญหาหนี้ร้อน ๆ ที่รัฐบาลกำลังผลักดัน ด้วยการลดเบี้ยปรับ 3% พร้อมลดดอกเบี้ยค้างให้ลูกหนี้อีก 50% ทันที เมื่อเกษตรกรที่มีหนี้ค้างกับ ธ.ก.ส. นำต้นเงินพร้อมดอกเบี้ยมาชำระหนี้กับ ธ.ก.ส. ทั้งหมด ในระหว่างวันที่ 1 กันยายน 2553 – 31 มีนาคม 2554 ถือเป็นการเปิดช่วงนาทีทองให้กับเกษตรกรที่มีหนี้ค้างมายาวนานจนดอกทบต้นต้นทบดอก ได้มีโอกาสปลดเปลื้องภาระดังกล่าวออกไปเสียที แถม ธ.ก.ส.ยังใจดีบอกว่าเมื่อชำระหนี้ไปแล้วหากลูกค้ายังอยากจะกู้ไปลงทุนใหม่ก็พร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่

เหตุผลที่ออกมาตรการตรงนี้คุณลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการ ธ.ก.ส.บอกว่า ธ.ก.ส.ได้ทำการสำรวจข้อมูลสาเหตุของการเป็นหนี้ค้างของเกษตรกรในช่วงที่ผ่านมา พบว่าเกษตรกรส่วนหนึ่งได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยธรรมชาติ ภัยพิบัติต่าง ๆ มากมาย ทั้งภัยแล้ง โรคระบาด ปัญหาผลกระทบอันเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกตกต่ำทำให้ราคาสินค้าเกษตรมีความผันผวน ขณะที่ต้นทุนการผลิตเพิ่มสูงเพราะปัจจัยการผลิตเช่น น้ำมัน มีราคาแพง สิ่งเหล่านี้ทำให้เกษตรกรมีค่าใช้จ่ายในการครองชีพเพิ่มสูงขึ้น จึงส่งผลกระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้ ลูกหนี้ที่สามารถเข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ คือลูกหนี้ที่

•พรพรหม จักรกริชรัตน์•

14 ตุลาคม 2553

Copy to clipboard