เปิดตัวไปแล้วอย่างเป็นทางการกับ “บัตรลดหนี้ วินัยดี มีวงเงิน” โดยมีนายกรัฐมนตรีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายกรณ์ จาติกวณิช 2 หนุ่มจากอ๊อกฟอร์ดที่มามอบให้กับลูกหนี้นอกระบบเองกับมือ...แต่เชื่อว่าหลาย ๆ คนที่ติดตามข่าวแบบกระท่อนกระแท่นยังคงสงสัย ว่าบัตรที่ว่านี้เป็นบัตรอะไรกันแน่... บัตรเครดิตก็ไม่ใช่ บัตรเดบิตก็ไม่เชิง บัตรเอทีเอ็มก็ยังไม่ชัด แล้วบัตรนี้ลดหนี้ได้อย่างไร? คนที่ได้รับไปแล้วใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง

วันนี้จึงขออธิบายพอสังเขปโดยอาศัยข้อมูลที่ คุณลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการ ธ.ก.ส. บอกเล่าให้ฟังคือ เป็นบัตรที่สถาบันการเงินของรัฐทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ ธ.ก.ส. ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ออกให้กับลูกหนี้ที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินนอกระบบกับรัฐบาล และมีการโอนหนี้ดังกล่าวมาเข้าสู่ระบบธนาคารเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ข้อมูลล่าสุดที่รับทราบมามีการโอนหนี้จากเจ้าหนี้นอกระบบมาไว้ที่ธนาคารทั้ง 6 แห่งแล้วกว่า 420,000 ราย โดย ธ.ก.ส.ครองแชมป์การโอนหนี้นอกระบบของเกษตรกรมาไว้ที่ ธ.ก.ส.มากที่สุดคือ 230,000 ราย วงเงินสินเชื่อที่ปล่อยกู้ไปแล้วประมาณ 23,000 ล้านบาท

บัตรที่ว่านี้จะมีรหัสแท่งหรือบาร์โค้ด สำหรับให้ลูกหนี้นำไปยื่นชำระหนี้เงินกู้ผ่านเคาน์เตอร์ของทุกธนาคารที่เข้าร่วมโครงการ โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมเหมือนการชำระค่าสินค้าทั่วไป ถือเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับลูกหนี้ว่าใกล้ที่ไหนก็ไปที่นั่น ประหยัดเงิน ประหยัดเวลา และหลังจากลูกหนี้ชำระหนี้ครบถ้วนตามกำหนดเป็นระยะเวลา 1 ปี ธนาคารจะมีเงินสำรองฉุกเฉินให้ลูกหนี้กู้ยืมไปใช้จ่ายได้อีก 50% ของเงินกู้ที่ชำระไปแล้ว เช่น ชำระไป 10,000 บาท กู้ฉุกเฉินกลับคืนได้ 5,000 บาท โดยสามารถนำบัตรนี้ไปกดเงินสดจากตู้เอทีเอ็มของทุกธนาคารที่เข้าร่วมโครงการได้ ตรงนี้นอกจากกระตุ้นให้ลูกหนี้มีวินัยทางการเงินแล้ว ยังช่วยป้องกันไม่ให้ลูกหนี้ไปกู้หนี้นอกระบบเมื่อเกิดความจำเป็นขึ้นมาอีก ฉะนั้นใครที่คิดว่าจะกู้เงินก้อนใหม่ไปใช้เลยในตอนนี้ คงต้องใจเย็น ๆ พิสูจน์ให้ธนาคารเจ้าหนี้เห็นว่า เราเป็นลูกค้าที่น่าเชื่อถือ จะได้ใช้บริการกันอีกนาน ๆ โดยไม่ต้องหวนกลับไปกู้หนี้ยืมสินนอกระบบที่อัตราดอกเบี้ยแพง ๆ จนกลายเป็นภาระหนักกันอีก คุณลักษณ์ยังบอกอีกว่า นอกจากให้วงเงินกู้ฉุกเฉินแล้ว ธ.ก.ส.ยังใจป้ำลดดอกเบี้ยให้อีก เช่น ขณะนี้คิดดอกเบี้ยในอัตราไม่เกินร้อยละ 12 ต่อปี แต่สำหรับวงเงินกู้ใหม่จะปรับเป็น MRR+ 3 ซึ่งจะอยู่ที่ประมาณ 9-9.75 % ต่อปีขึ้นอยู่กับภาวะอัตราดอกเบี้ยในช่วงนั้น ไม่นับโบนัสพิเศษที่ธนาคารควักจ่ายให้ลูกหนี้ฟรี ๆ คือการประกันภัย เป็นการการันตีว่าถ้ามีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น หนี้ก้อนนี้จะหยุดและจบลงเพียงแค่นี้ ไม่ต้องตกเป็นภาระของทายาทอีกต่อไป

โอกาสมาถึงแล้ว ขึ้นอยู่กับลูกหนี้ว่าจะไขว่คว้ากันอย่างไร โดยไม่ลืมที่จะสร้างและส่งเสริมวินัยให้เกิดขึ้นกับชาติบ้านเมือง ก่อนที่เราจะส่งต่อให้กับลูกหลานต่อไป

•พรพรหม จักรกริชรัตน์•

 


14 ตุลาคม 2553

Copy to clipboard

กลับสู่ด้านบน