สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดหอพระพุทธเกษตร์รักษา พระอนุสาวรีย์พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ หอสมุดและหอจดหมายเหตุ ในโอกาสครบรอบ 47 ปี และก้าวสู่ปีที่ 48 ของ ธ.ก.ส. เพื่อเป็นศูนย์รวมทางด้านจิตใจและเป็นแหล่งศึกษาหาความรู้ด้านการเกษตรแบบครบวงจรแก่ประชาชน เมื่อวันที่ 1 พฤศจิยายน 2556 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดหอพระพุทธเกษตร์รักษา พระอนุสาวรีย์พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เพื่อเป็นศูนย์รวมทางด้านจิตใจของพนักงานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ทั่วประเทศ พร้อมเปิดหอสมุด และหอจดหมายเหตุ เพื่อเป็นแหล่งศึกษาหาความรู้ด้านการเกษตร ทั้งด้านสินเชื่อ ภูมิปัญญาท้องถิ่น เทคโนโลยีการเกษตร รวมถึงการพัฒนาชนบทแบบยั่งยืน โดยมีนายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังในฐานะประธานกรรมการ ธ.ก.ส. นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการ ธ.ก.ส. พร้อมด้วยผู้บริหารและพนักงาน เฝ้ารับเสด็จ ณ อาคาร ธ.ก.ส. สำนักงานใหญ่ ถนนพหลโยธิน แขวงเสนานิคม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการ ธ.ก.ส. เปิดเผยว่า ธ.ก.ส. ได้จัดสร้างพระพุทธเกษตร์รักษา ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางนาคปรก มาประจำอาคารสำนักงานใหญ่บางเขน เพื่อเป็นที่สักการะบูชาของพนักงาน และประชาชนทั่วไป ซึ่งเศียรพระบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่ได้กราบทูลขอประทานจากสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก และได้ขอพระราชทานพระนามาภิไธย ?สธ? ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี มาประดิษฐานที่ผ้าทิพย์พระพุทธรูป ซึ่งชื่อ ?พระพุทธเกษตร์รักษา? หมายความถึง พระพุทธะที่คุ้มครองปกปักรักษาชาวนาชาวไร่และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับภาคเกษตรกรรม ให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากภยันตรายทั้งปวง และให้พื้นที่เกษตรกรรมมีความอุดมสมบูรณ์ รวมทั้งขอพระบรมราชานุญาติจัดสร้าง พระอนุสาวรีย์พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ขนาดหนึ่งเท่าครึ่งของพระองค์จริง มาประดิษฐานที่บริเวณลานด้านในอาคารสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ เพื่อแสดงถึงความกตัญญูที่ชาว ธ.ก.ส. เคยได้อาศัยสถานที่บริเวณนางเลิ้ง ซึ่งเป็นเขตวังของพระองค์ เป็นสถานที่ตั้งอาคารสำนักงานใหญ่ ในช่วงปี 2518-2556 จนกระทั่งเติบโตถึงปัจจุบัน รวมทั้งเพื่อเป็นศูนย์รวมแห่งจิตใจและการมุ่งมั่นทำงานและทำความดีเพื่อทดแทนบุญคุณแผ่นดิน ทั้งนี้จุดเด่นที่น่าประทับใจ ณ ที่แห่งนี้คือ เมื่อผู้มาเยือนได้ยืนตรงด้านหน้าพระอนุสาวรีย์ จะเกิดเงาสะท้อนจากกระจกอาคาร เห็นพระรูปปรากฏรายรอบเป็นครึ่งวงกลมเสมือนการแผ่พลังบารมีไปยังผู้ที่ได้มาสักการะ ในส่วนของ หอสมุดและหอจดหมายเหตุ ธ.ก.ส. จะเป็นแหล่งรวบรวมเรื่องราวความเป็นมาในการวางระบบสินเชื่อทางการเกษตรตั้งแต่ยุคแรกเริ่มของ ธ.ก.ส. ซึ่งถือเป็นธนาคารเกษตรเพียงแห่งเดียวของประเทศไทย มีการเก็บรวบรวมความรู้ด้านสินเชื่อการเกษตร ภูมิปัญญาท้องถิ่น นวัตกรรมและเทคโนโลยีในการประกอบอาชีพทางการเกษตร รวมถึงการพัฒนาชนบทแบบยั่งยืน ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ทั้งภาษาไทยและภาษาอื่นๆครบวงจร โดยเปิดเป็นห้องสมุดสาธารณะ เพื่อให้นักเรียน นิสิตนักศึกษา เกษตรกร รวมทั้งประชาชนที่สนใจเข้ามาเยี่ยมชม พร้อมจัดทำระบบเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วยในการสืบค้น โดยการออกแบบที่เอื้อต่อการเรียนรู้แบบเรียบง่าย เสมือนร้านหนังสือที่ทันสมัย มีมุมสำหรับเด็กเล็ก มุม Audio ? book มุม Coffee Library และมุมส่วนตัวที่ต้องการความสงบ พร้อมห้องฉายภาพยนตร์ขนาดเล็ก เปิดทำการวันจันทร์ ? วันศุกร์ เวลา 07.30 - 18.30 น. และวันเสาร์ ? วันอาทิตย์ เวลา 09.00 - 16.00 น. เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ โดยผู้ที่สนใจเข้ามาเยี่ยมชมและศึกษาหาความรู้ สามารถติดต่อได้ที่ หอสมุด ชั้น 3 อาคาร ธ.ก.ส. สำนักงานใหญ่บางเขน โทรศัพท์ 02-518-6100 ต่อ 8366 ? 8372 โทรสาร 02-558-6384 อีเมล์ library@baac.or.th หรือ www.baac.or.th นายลักษณ์ กล่าวอีกว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้น ที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินมาเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดสถานที่ที่สร้างองค์ความรู้แก่ประชาชน และสิ่งยึดเหนี่ยวทางจิตใจของชาว ธ.ก.ส. ที่สำคัญวันที่ 1 พฤศจิกายน 2556 ถือเป็นวันก่อตั้ง ธ.ก.ส. มาครบ 47 ปี และก้าวสู่ปีที่ 48 จึงขอน้อมนำวาระมงคลนี้ มาเป็นขวัญและกำลังใจแก่เกษตรกร พนักงาน ธ.ก.ส. ทั่วประเทศ ในการมุ่งมั่นทำงานเพื่อพัฒนาภาคเกษตรกรรมและเศรษฐกิจในภาคชนบทให้เข้มแข็งยั่งยืนต่อไป


Copy to clipboard

กลับสู่ด้านบน