ประธานกรรมการ ธ.ก.ส.ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมกองทุนหมู่บ้านและสถาบันการเงินชุมชนจังหวัดกาฬสินธุ์ พบกองทุนหมู่บ้านอยู่ในระดับดีและดีมากมีศักยภาพสูงถึง 1,325 กองทุน จากทั้งหมด 1,620 กองทุน พร้อมสนับสนุนและพัฒนาความรู้เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับกองทุนหมู่บ้านผ่านเครือข่ายสาขา ธ.ก.ส.ทั่วประเทศ

เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2558 นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้ลงพื้นที่ชุมชนบ้านดงลิง ต.เจ้าท่า อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ เพื่อพบปะเกษตรกรลูกค้าและติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล โดยภาพรวมพบว่าพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ มีจำนวนกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองรวมทั้งสิ้น 1,620 กองทุน อยู่ในระดับดีมาก (A) จำนวน 964 กองทุน ระดับดี (B) จำนวน 361 กองทุน ระดับพอใช้ (C) จำนวน 188 กองทุน และระดับที่ต้องปรับปรุง (D) จำนวน 107 กองทุน

 

โดยหมู่บ้านดงลิง หมู่ 11 ต.เจ้าท่า อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ เป็นที่ตั้งของศูนย์เรียนรู้เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ ธ.ก.ส. มีประชากรทั้งสิ้น 114 ครัวเรือน เป็นสมาชิกศูนย์เรียนรู้ฯ 112 ครัวเรือน มีกิจกรรมกลุ่มต่างๆ ในชุมชน ประกอบไปด้วย กลุ่มอาชีพ ได้แก่ กลุ่มคัดเมล็ดพันธุ์ข้าว กลุ่มโรงสีข้าว กลุ่มทำนาข้าว กลุ่มรวบรวมผลผลิตข้าวและกลุ่มน้ำยาเอนกประสงค์ กลุ่มการเงิน ได้แก่ กลุ่มออมทรัพย์ กลุ่มศูนย์สาธิตการตลาด กองทุนหมู่บ้านและกลุ่มสัจจะโฮมสเตย์ และกลุ่มอื่นๆ ได้แก่ กลุ่มจักสานและกลุ่มทอผ้า ซึ่งมีกิจกรรมเด่นคือ ศูนย์ข้าวชุมชนบ้านดงลิง เป็นการรวมกลุ่มเพื่อลดต้นทุนการทำนา ให้สมาชิกช่วยเหลือกันเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับชุมชน เป็นการสร้างเครือข่ายในการดำเนินงานเพื่อเป็นศูนย์เรียนรู้ของชุมชน

 

สำหรับภาพรวมการดำเนินงานของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองตั้งแต่ปี 2544 จนถึงปัจจุบันมีกองทุนหมู่บ้านทั้งหมด 79,255 กองทุน วงเงินหมุนเวียนรวม 154,569 ล้านบาท ใช้บริการจาก ธ.ก.ส.จำนวน 39,120 กองทุน พัฒนาเป็นกองทุนหมู่บ้านชั้นดีจำนวน 33,643 กองทุน คิดเป็นร้อยละ 86 จากเดิมปี 2546 มีเพียงร้อยละ 24 และได้ยกระดับเป็นสถาบันการเงินชุมชนแล้ว 904 แห่ง โดย ธ.ก.ส.มีความพร้อมที่จะเข้าไปดำเนินการพัฒนาความรู้เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง ธ.ก.ส. มีเครือข่าย 1.029 สาขาทั่วประเทศและพนักงานในพื้นที่ชนบท 12,179 คน พร้อมเป็นที่ปรึกษาแก่กองทุน นอกจากนี้ยังได้สนับสนุนคอมพิวเตอร์พร้อมโปรแกรมบัญชีแก่กองทุนหมู่บ้านทุกปี ปีละ 2,500 แห่ง รวมเป้าหมาย 12,500 แห่งและมีเป้าหมายยกระดับเป็นสถาบันการเงินชุมชน 3,000 แห่ง


Copy to clipboard

กลับสู่ด้านบน